สวัสดีครับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ
ห่างหายกันไปนานหลายเดือนเลยนะครับ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาติดงานหลักมาก ไม่ค่อยมีเวลาดูแลน้องเดือนเลย
เริ่มกันที่เราคงรู้จักวิธีการเพาะเลี้ยงกันมามากพอสมควรแล้ว ตอนนี้เรามาดูว่าเราได้อะไรจากการเลี้ยงน้องเดือนกันบ้างดีกว่า
ว่ากันที่ประโยชน์จากการเพาะเลี้ยงไส้เดือน
เราได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ (เน้นว่าผมอยากให้ใช้เพียงเวลาว่างเท่านั้น)
เราได้รู้จักการแยกขยะมากขึ้น เป็นไปได้ควรสอนเด็กๆให้รู้จักการแยกขยะด้วยนะครับ เพราะนอกจากเราจะได้กำจัดขยะสด และเศษอาหารที่เรากินเหลือแล้ว เรายังจะได้แยกขยะที่สามารถนำมาขายต่อได้อีก หากสามารถทำเป็นชีวิตประจำวันได้ จะสามารถลดขยะได้มากโข
จากนั้นเราก็จะได้ปุ๋ยมูลไส้เดือนซึ่งปลอดจากสารพิษ ไว้ใส่ต้นไม้ หากพอมีเวลาก็แนะนำให้ปลูกผักสวนครัวไว้เก็บกินเองก็จะดีนะครับ ใช้พื้นที่แค่สัก 1 ตร.ม.ก็พอ ปลูกพวก พริก ตะไคร้ ใบกระเพรา ใบหัวระพา แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องไปหาซื้อครับ
ที่สำคัญคุณก็ได้ช่วยลดโลกร้อนได้ง่ายๆแล้วครับ
เอาล่ะ เห็นประโยชน์กันมามากพอสมควรแล้ว เรามาต่อกันให้เห็นภาพดีกว่าว่าไส้เดือนจะสามารถกำจัดขยะได้มากขนาดไหน
การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อกำจัดขยะ ผมจะใช้ไส้เดือน 1 กก. ต่อพื้นที่ ประมาณ 50 x 50 x 50 เซนติเมตร
โดยใช้เบดดิ้ง เป็นขี้วัว30% + ( ขุยมะพร้าว + กระดาษ + เศษใบไม้ ) 70%
ใส่เบดดิ้งสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ใส่ไส้เดือน 1 กก. (อย่างไรดูตามรูปนะครับ )
เอาล่ะเรียบร้อยแล้ว ผมเรียกมันว่าเครื่องกำจัดขยะ
จากนั้นหากเรามีเศษอาหารที่ทานเหลือ หรือทำกับข้าวแล้วมีเศษผัก ไส้ปลา หรือจะเรียกว่าขยะที่เป็นธรรมชาติก็สามารถนำมาใส่เครื่องกำจัดขยะใบนี้ได้เลยครับ ( หากเป็นแกงเผ็ดเอาแต่เนื้อดีกว่านะครับอย่าราดไปทั้งที่มีน้ำสงสารไส้เดือนครับ เพราะมันจะมีความร้อนจากความเผ็ดของพริกครับ และจะใจดีมากหากจะล้างน้ำก่อนสักครั้ง )
เท่านี้เองครับ ง่ายดีใช่ม้า ส่วนเราก็สามารถเก็บปุ๋ยไปใช้ได้เลยครับ เก็บได้ทุกวัน
วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552
การเพาะเลี้ยงไส้เดือน(ปฏิบัติจริง7)
การเพาะเลี้ยงไส้เดือน(ปฏิบัติจริง6)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
จากนั้นก็เทมูลไส้เดือนออกจากภาชนะหรือจะทำในภาชนะเลยก็ได้ตามแต่สะดวก วิธีคือกองเป็นภูเขาตามที่เคยเสนอไปแล้วดูตามภาพได้เลยนะครับ
เก็บด้านบนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือแต่ตัวไส้เดือนด้านล่าง (ส่วนที่ตักออกก็นำไปใส่ภาชนะเก่าไว้เพื่อเลี้ยงต่ออีก 45-60 วัน รอรุ่นใหม่โต)
พอเหลือแต่ไส้เดือนก็ทำการชั่งและนับจำนวนเช็คยอดว่าเป็นอย่างไร (คงทำได้แค่ตอนเลี้ยงครั้งแรกๆเท่านั้น พอมันเยอะคงมานั่งนับไม่ไหว)
การเพาะเลี้ยงไส้เดือน(ปฏิบัติจริง5)
.jpg)
.jpg)
เอาละ จากนั้นผมก็ตามด้วยการแยกพ่อพันธุ์ ไส้เดือนรุ่นที่ผมแยกผมใส่พ่อพันธุ์จำนวน 2ขีด/เบดดิ้ง 8 กก.
ซึ่งผมเห็นว่าตัวไส้เดือนยังเยอะเกินไป เพราะเวลาไม่เกิน 20 วันเบดดิ้งกลายเป็นปุ๋ยหมดแล้ว วิธีดูคือลองนำมือล้วงไปที่ก้นภาชนะและตักขึ้นมาดูว่า มันเป็นมูลไส้เดือนถึงก้นภาชนะหรือยัง หากเป็นขึ้หมดแล้วควรทำการแยก โดยด่วน ก่อนไส้เดือนจะหนีไปหาที่อยู่ใหม่ซะก่อน ลองดูภาพนะครับ
การเพาะเลี้ยงไส้เดือน(ปฏิบัติจริง4)
.jpg)
.jpg)
จากนั้น ก็นำเบดดิ้งใส่ ภาชนะที่เราจะเลี้ยง โดยใส่เบดดิ้ง 8 กก. / ไส้เดือน 1 ขีดหรือ 100 ตัว(ชั่งที่เบดดิ้งพอหมาด) จากนั้นผมจะรดด้วยน้ำ em อีกครั้ง1 เพื่อลดความร้อนและช่วยย่อยขยะได้เร็วขึ้น หากเป็นการใส่พ่อพันธุ์ที่เพิ่งแยกมาควรนำเบดดิ้งเก่ามาด้วยตามภาพ เพราะหากเบดดิ้งใหม่มีปัญหาไส้เดือนจะได้อยู่ที่เบดดิ้งเดิมก่อน
ปล. รูปที่นำไส้เดือนลงเบดดิ้งอย่างมองมากเดี๋ยวตาลายไว้ถ่ายใหม่แล้วจะนำมาเปลี่ยนให้(มันเบลอครับ)
การเพาะเลี้ยงไส้เดือน(ปฏิบัติจริง3)
.jpg)
.jpg)
จากนั้นผมก็นำขี้วัว กระดาษ ขุยมะพร้าม และเศษผักนำมาผสมกัน โดยจะมีขี้วัวเป็นหลักที่ ประมาณ 50 %ของเบดดิ้ง ส่วนที่เหลือก็ใส่ประมาณ อย่างละหน่อย (เหตุที่ใส่หลายอย่างเพราะอยากให้เพื่อนๆได้ดูว่าหากที่บ้านมีอะไรให้ใช้อย่างนั้นไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อ แต่ผมซื้อขุยมะพร้าวเพราะสภาพแวดล้อมไม่ค่อยมีอย่างอื่นให้ใส่ จึงต้องเตรียมขุยมะพร้าวไว้) แต่วันนี้ผมรีบไปหน่อยเลยขี้เกียจสับเศษผัก หากเพื่อนๆพอมีเวลาสับสักหน่อยก็จะดีขนาดจะได้เล็กลงกินง่ายขึ้นเยอะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)